เมื่อไหร่ที่ควร ซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด ดูแลอย่างไรให้ใช้งานได้นาน

เมื่อไหร่ที่ควร ซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด ดูแลอย่างไรให้ใช้งานได้นาน

สัญญาณใดบ้างที่คุณควรส่ง ซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด ที่อู่หรือศูนย์ทันที

รู้หรือไม่? ว่าอายุการใช้งานของรถยนต์ไฮบริดจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับการดูและการบำรุงรักษาแบตเตอรี่ โดยการนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถยนต์ไฮบริดที่ได้มาตรฐานและมีช่างผู้ชำนาญการเฉพาะทาง เพื่อเช็กระยะรถและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ หรือหากมีความปกติอะไรก็ควรส่ง ซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด เพื่อยืดอายุการใช้งานรถยนต์ให้ยาวนาน และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ให้คุณได้มากขึ้นนั่นเอง

แบตเตอรี่ถือเป็นหัวใจสำคัญรถยนต์ไฮบริด เพราะเป็นอุปกรณ์สำหรับจ่ายไฟเพื่อไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์และจัดเก็บพลังงานเพื่อการขับขี่ โดยรถยนต์ Hybrid ทำงานร่วมกันระหว่างแบตเตอรี่ระบบไฟฟ้า และเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมันเบนซินหรือดีเซลสลับกันไปมา เพื่อช่วยลดการใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิง ให้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่สิ่งแวดล้อมได้น้อยลง ฉะนั้นควรดูแลรักษาการทำงานของแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพที่ดีอยู่เสมอ และหากพบว่าแบตเตอรี่ไฮบริดเสื่อมสภาพควรเลือก ซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด ที่ศูนย์หรืออู่ซ่อมรถยนต์ไฮบริดที่ได้มาตรฐาน เพื่อช่วยแก้ปัญหาแบตเตอรี่ให้คุณได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง

ทำอย่างไรหากไม่อยากซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริดบ่อย

โดยเฉลี่ยแล้วอายุการใช้ของแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดจะอยู่ที่ประมาณ 80,000 – 150,000 กิโลเมตร หรือประมาณ 10 ปี แต่แบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยโดยประมาณ 3 ถึง 5 ปี ซึ่งระบบควบคุมการจัดการความร้อนภายในจะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้ แต่ก็มีปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายประการที่ทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ไฮบริดมากหรือน้อย เช่น 

  • การบำรุงรักษา, การหมั่นตรวจสอบสภาพรถและ ซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด อยู่เสมอ
  • สภาพอากาศก็อาจส่งผลต่ออายุการใช้งานได้ เช่น สภาพอากาศเย็นทำให้คุณสมบัติทางเคมีของแบตเตอรี่ทำงานช้าลง
  • ขั้วแบตเตอรี่หลวมทำให้จ่ายพลังงานไม่เหมาะสม
  • พฤติกรรมการขับขี่และการชาร์จแบตเตอรี่ เช่น การใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์เสริม หรือการชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์เสริมทิ้งไว้เมื่อไม่ได้ใช้งานรถยนต์ ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ของคุณหมด

รู้ได้อย่างไร? ว่าคุณควรส่งซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด 

  • ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์เริ่มทำงานไม่เสถียร
    สัญญาณอันดับต้น ๆ ที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่ของคุณเริ่มมีปัญหาก็คือ เครื่องยนต์สตาร์ตติดยากในตอนที่จอดรถทิ้งไว้ข้ามคืนหรือหลาย ๆ วัน 
  • แบตเตอรี่ตัดชาร์จบ่อยเพราะระบบไฮบริดทำงานผิดปกติ
    สาเหตุสำคัญของการที่แบตเตอรี่ตัดชาร์จบ่อย เป็นเพราะระบบไฮบริดในรถยนต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพหรือมีปัญหาจึงส่งผลให้ระบบไฮบริดเกิดความผิดปกติได้ หากเป็นไปได้ควรส่งซ่อม
    แบตเตอรี่ไฮบริด เพื่อป้องกันปัญหาอื่นที่อาจตามมา
  • อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นหรือชาร์จแบตเตอรี่ไฮบริดไม่ได้
    หากมีอาการหนึ่งอาการใดเกิดขึ้น นั่นแสดงว่าแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดของคุณเสื่อมสภาพ และต้องรีบนำเข้าอู่ ซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด ทันที
  • รถอืดเหยียบคันเร่งไม่ขึ้นหรือระบบเบรกทำงานผิดปกติ
    เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมหรือเกิดความผิดปกติ ส่งผลกับระบบเบรกรวมถึงประสิทธิภาพในการขับขี่ เช่น คุณจะสัมผัสได้เวลาที่เหยียบคันเร่งแล้วรถอืด ๆ แต่เรื่องระบบเบรกนั้น เป็นเรื่องที่คุณควรให้ความสำคัญ เพราะไม่ใช่เรื่องแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ แต่สาเหตุมันอาจจะเป็นของผ้าเบรก ที่เกิดจากการใช้เบรกมากเกินไป ทางที่ดีหากเกิดความผิดปกติของระบบเบรกคุณควรเอารถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมโดยทันที เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของคุณ
  • ใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดมากกว่า 3-5 ปี หรือมากกว่า 80,000 กิโลเมตร
    อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของรถยนต์ไฮบริด มีระยะเวลาประมาณ 3-5 ปี หรือสามารถวัดจากจำนวนไมล์ เมื่อคุณใช้งานรถยนต์ไฮบริดได้ระยะเวลาหรือจำนวนมากกว่า 80,000 กิโลเมตรแล้ว แบตเตอรี่ก็จะเริ่มเสื่อมสภาพและแสดงปัญหาต่าง ๆ ออกมาเวลาที่คุณขับขี่ ฉะนั้นหากรถของคุณตรงกับข้อนี้ก็แสดงว่าถึงเวลาที่ต้องส่ง ซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด แล้ว

อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่า อายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดนั้นจะมากน้อยขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับรถและการใช้รถที่ไม่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมง่าย แต่ข้อดีของรถยนต์ไฮบริดนั้นก็คือ เมื่อแบตเตอรี่เสื่อมก็ยังสามารถขับเคลื่อนด้วยระบบน้ำเชื้อเพลิงได้ปกติ เพียงแต่ว่าคุณก็เสียค่าใช้จ่ายของน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นเท่านั้นเอง วิธีที่ดีที่สุดคือการดูแลและบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี ซึ่ง HYBRID CAR มีคำแนะนำดังนี้

วิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่ไฮบริดที่อู่ ซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด แนะนำ

  • พยายามหลีกเลี่ยงการจอดรถไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำมากเกินไป
    อุณหภูมิสูงหรือต่ำมาก ๆ จะทำให้แบตเตอรี่ไฮบริดเสื่อมสภาพได้เร็ว ดังนั้นคุณจึงควรเลือกสถานที่จอดรถในที่ร่ม หากบริเวณนั้นมีแดดจัด เพราะการจอดรถไว้กลางแดดเป็นเวลานาน ๆ อุณหภูมิของแบตเตอรี่จะสูงขึ้น เมื่อคุณสตาร์ตรถและแบตเตอรี่เริ่มทำงานด้วยความร้อนที่สะสมไว้และเพิ่มอุณหภูมิสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนเกินมาตรฐาน เมื่อเป็นเช่นนี้บ่อยครั้งจะส่งผลให้แบตเตอรี่บวมและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการวางสิ่งของบริเวณช่องระบายอากาศ
    ทั้งตุ๊กตา ของตั้งโชว์ หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย แม้จะมีคุณค่าทางจิตใจแต่ก็อาจไม่ดีกับระบบแบตเตอรี่ไฮบริดได้โดยที่คุณไม่ได้ตั้งใจ เพราะสิ่งของเหล่านี้อาจวางอยู่ในที่ที่บดบังการระบายอากาศในรถก็เป็นได้ ซึ่งนั่นจะทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนักและมีอุณหภูมิที่สูงมากขึ้นนำไปสู่แบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพได้เร็วขึ้นได้ นั่นเอง
  • ห้ามดับเครื่องยนต์ขณะที่รถกำลังชาร์จแบตเตอรี่อยู่
    หากแบตเตอรี่กำลังชาร์จอยู่การดับเครื่องยนต์ในขณะนั้น จะทำให้เกิดภาวะ Memory Effect ซึ่งเป็นผลที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้ ดังนั้น เมื่อคุณขับรถถึงที่หมายแล้วก่อนจะดับเครื่องยนต์ ให้คุณดูที่หน้าจอรถว่าแบตเตอรี่กำลังชาร์จอยู่หรือไม่แล้วค่อยดับเครื่องยนต์ เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถไฮบริดของคุณได้ โดยไม่ต้องเข้าอู่ ซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด บ่อย ๆ
  • ไม่เหยียบคันเร่งให้แรงมากในขณะที่รถกำลังออกตัว
    การฝืนเหยียบคันเร่งแรง ๆ ในขณะที่รถกำลังออกตัว ทำให้ระบบเครื่องยนต์และแบตเตอรี่ภายในเกิดความร้อนสูง เพราะรถยนต์ไฮบริดนั้นถูกออกแบบมาให้ขับขี่อย่างนิ่มนวลค่อย ๆ ไต่ระดับความเร็วไปเรื่อย ๆ หากคุณฝืนเหยียบคันเร่งมากไปจนทำให้เกิดความร้อนภายในสูง นั่นก็คืออีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่ากำหนด
  • หลีกเลี่ยงการบรรทุกของหนัก
    การที่รถยนต์ไฮบริดบรรทุกของหนักจนเกินไป ทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนัก รวมถึงมีผลกระทบต่อระบบไฮบริด จนถึงขั้นต้องส่งซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด ฉะนั้น คุณจึงควรพยายามหลีกเลี่ยงการบรรทุกน้ำหนักมากเกินไปนั่นเอง
  • การปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิต
    การดูแลรักษารถยนต์ไฮบริดที่ดีและถูกต้องมากที่สุดก็คือ การปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตที่อยู่ในคู่มือการใช้งานของรถของคุณ
  • หมั่นตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอรี่เป็นระยะ
    การนำรถยนต์ไฮบริดของคุณเข้าเช็กสภาพที่ศูนย์หรืออู่ ซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด บ่อย ๆ เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของแบตเตอรี่, อัปเดตซอฟต์แวร์ หรือเช็กระบบการระบายความร้อน ฯลฯ ซึ่งเราแนะนำว่าให้คุณนำรถไฮบริดมาตรวจเช็กโดยช่างมืออาชีพ และปรับสภาพทุก ๆ 12 เดือนหรือทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร

ความจริงในรถยนต์ไฮบริดบางรุ่นจะมีหน้าจอที่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพของแบตเตอรี่ได้ หรือหากเป็นรุ่นที่ไม่มีการนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ ซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด เพื่อปรึกษาปัญหาหรือให้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ของคุณและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่มีปัญหาได้ทันท่วงที นอกจากจะช่วยให้คุณใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานแล้ว ยังช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย

หากคุณกำลังมองหาอู่ ซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด ที่มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานและช่างผู้ชำนาญการเฉพาะทาง ที่ HYBRID CAR [THAILAND] CO.,LTD. เราเป็นผู้นำด้านการซ่อมรถยนต์ไฮบริดแบบครบวงจร มาอย่างยาวนานด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี พร้อมอะไหล่แท้และมีมาตรฐานด้านความปลอดภัย และบริการหลังการซ่อมเป็นอย่างดี

หากสนใจซ่อมแบตเตอรี่ไฮบริด สามารถแอดไลน์มาสอบถามราคาหรือประเมินค่าอะไหล่ก่อนได้ที่ hybridcar

หากสนใจสามารถแอดไลน์มาสอบถามราคาหรือประเมินค่าอะไหล่ก่อนได้ที่

อู่ซ่อมรถ toyota

เปิดบริการ 09:00-18:00 น. ทุกวันจันทร์ – วันเสาร์ Line : @hybridcar  โทร : 02-098-2465
Facebook :  HybridCar.co.th